ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไชต์ "โรคเอดส์" ม.6 ห้อง1

ความหมายของโรคเอดส์

 



      เอดส์ มีต้นตอจากคำย่อภาษาอังกฤษ คือ AIDS ซึ่งเป็นคำย่อของคำว่า Acquired Immunodeficiency Syndrome โดยมีความหมายดังนี้
      Acquired หมายถึง ภาวะที่เกิดขึ้นในภายหลัง มิได้เป็นมาแต่กำเนิด หรือ สืบสายเลือดทางพันธุกรรม
    
      Immune หมายถึง เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานของร่างกาย
      
      Deficiency หมายถึง ความบกพร่อง หรือขาด
      
      Syndrome หมายถึง กลุ่มอาการคือโรคที่มีอาการหลาย ๆ อย่างไม่เฉพาะที่ระบบใดระบบหนึ่ง
         ดังนั้นเอดส์จึงหมายถึง กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม โดยที่คณะอนุกรรมการบัญญัติศัพท์แพทย์ของราชบัณฑิตยสถาน ได้ประชุมกันแล้วเห็นว่าคำว่า "เสื่อม" นั้น หมายถึง สิ่งที่เคยดีมาก่อนอยู่แล้วเกิดขาดพร่องไปในภายหลัง ซึ่งน่าจะตรงกับคำว่า Acquired มากกว่าคำว่า "บกพร่อง" ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าขาดตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดมาขาดในภายหลัง (ประเสริฐ, 1988)
          
      เอดส์ เป็นภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อมในคนที่เคยมีสุขภาพแข็งแรงมาก่อน ทำให้มีการติดเชื้อจุลชีพ ซึ่งปกติจะอยู่ร่วมกันกับร่างกายมนุษย์โดยไม่ก่อโรค
          
      เอดส์ เป็นลักษณะของภูมิคุ้มกันชนิดเซล (Cell-mediated immunity) เสียไป จึงทำให้เกิดลักษณะทางคลินิกที่รุนแรง และที่พบบ่อยคือการติดเชื้อฉวยโอกาส (opportunistic infection) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อนิวโมซิสติส คารินิไอ (Pneumocystis carinii) ที่ปอด หรือมะเร็งที่ปกติไม่พบในคนที่อายุน้อยกว่า 60 ปี คือมะเร็งแคโปสิ ซาร์โคมา (Kaposi's sarcoma)
       
      ศูนย์ควบคุมโรค (Centers for Disease Control) ของสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดความหมายของคำว่า เอดส์ เป็นครั้งแรกใน พ.ศ.2525 ว่าเป็นภาวะภูมิคุ้มกันชนิดเซลเสื่อม ทำให้เกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสและมะเร็งบางอย่างง่าย โดยที่ผู้ป่วยคนนั้นยังไม่สูงอายุเกินไปที่ภูมิคุ้มกันจะเสื่อม หรือได้รับยาที่กดภูมิคุ้มกันอยู่เดิม หรือเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อมแบบปฐมภูมิ (Primary immune deficiency) หลังจากมีการทดสอบแอนติบอดี้ เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีแล้ว ศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาได้นำเอาผลของการตรวจนั้น เข้ามาประกอบในการวินิจฉัยเอดส์ด้วย โดยแบ่งเป็น 3 กรณี คือ กรณีที่ไม่มีผลการตรวจแอนติบอดี้ต่อเอชไอวี กรณีที่แอนติบอดี้ต่อเอชไอวีให้ผลบวกและกรณีที่แอนติบอดี้ต่อเอชไอวีให้ผลลบ แต่ยังน่าที่จะเป็นเอดส์อยู่ โดยได้ปรับปรุงความหมายของเอดส์ใน ปี พ.ศ.2530 โดยกำหนดรายชื่อโรคติดเชื้อฉวยโอกาส มะเร็งบางชนิด อาการทางจิตประสาท และอาการผอมแห้ง (Wasting syndrome) ร่วมกับท้องร่วง ที่จะใช้วินิจฉัยว่าเป็น เอดส์เต็มขั้น โดยได้ให้คำนิยามของโรคต่าง ๆ และวิธีการวินิจฉัยไว้อย่างชัดเจน
         
        เอดส์ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (Human immumnodeficiency virus) ไวรัสนี้จะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ไม่สามารถป้องกันภยันตรายจากโรคติดเชื้ออื่น ๆ หรือโรคมะเร็งบางชนิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดเชื้อ หรือโรคมะเร็งประเภทฉวยโอกาส ผู้ป่วย เอดส์มักจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
         
        เอดส์ คือ โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน หรือกลไกต่อต้านเชื้อโรคของร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันลดน้อยลงหรือไม่มีเลย ร่างกายจึงติดเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ ได้ง่ายแม้กระทั่งเชื้อที่พบทั่วไปในธรรมชาติและไม่ทำอันตรายต่อคนปกติ ก็จะเป็นอันตรายสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ ที่มีระบบภูมิคุ้มกันลดน้อยลง นอกจากนี้ยังอาจพบอาการของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งผิวหนังบางชนิดที่ปกติไม่พบบ่อย ความเจ็บป่วยเหล่านี้อาจมีความรุนแรงและทำให้ตายได้
        
       สรุปได้ว่า เอดส์ หมายถึง กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันชนิดเซลเสื่อมที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ทำให้เกิดโรคจากเชื้อฉวยโอกาสเช่น นิวโมซิสติส คารินิไอ มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งแคโปสิซาร์โคมาในคนที่อายุน้อยกว่า 60 ปี มีอาการทางจิตประสาท และอาการผอมแห้งร่วมกับท้องร่วง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น